วิธีทำมะม่วงกวน ไม่ต้องตากแดดก็อร่อยได้รสธรรมชาติ สูตรเด็ดจากต่างแดน
พอเข้าหน้ามะม่วงออกผลแน่น ๆ เมื่อไร เชื่อว่า หลายคนเป็นต้องซื้อมาตุนเอาไว้ก่อนและแทบทุกครั้งกินไม่หมดจนเน่า ดำ จำต้องโดยทิ้ง ถ้าอยากหาวิธีแปรรูปผลไม้ที่เก็บไว้ได้นาน ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำมะม่วงกวนสูตรจากคุณ lindahelen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ขอนำเสนอการทำลูกพลัมกวนแทนมะม่วงกวน เพราะกรรมวิธีเหมือนกัน ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องตากแดด ส่วนผสมมีแค่ลูกพลัมเท่านั้น เติมเกลือไปนิดหน่อยก็พอ ส่วนน้ำตาลจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เก็บไว้กินได้นานเป็นเดือนเชียวล่ะ
มินิรีวิวการทำมะม่วงและลูกพลัมกวนฉบับคนไกลบ้าน โดย คุณ lindahelen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
อยู่ต่างแดนทำให้นึกอยากกินมะม่วงกวนเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนต้องโทรไปรบกวนคนที่เมืองไทยส่งมาให้อยู่บ่อย ๆ ต่อไปนี้คงไม่ต้องด้วยว่าหัดทำเองเป็นแล้ว ถามอากู๋แป๊บเดียวรู้เรื่องเลยลองหัดทำดู วัตถุดิบที่ใช้คือลูกพลัมของที่นี่ ส่วนผสมแค่เติมเกลือ 1 ช้อนกาแฟ ไม่มีสิ่งปนเปื้อนใด ๆ น้ำตาลไม่ใส่ เป็นความชอบส่วนตัวคืออยากได้รสผลไม้แบบธรรมชาติ และอีกอย่างมะม่วงสุกลูกโต ๆ ของที่นี่ไม่เห็นจะเปรี้ยวเลย รูปตัวอย่างที่ถ่ายมาลงนี้คือมะม่วงแผ่น หลังจากตากเริ่มแห้งได้ที่ แต่ว่าขั้นตอนวิธีการทำที่จะรีวิวนี้เป็นลูกพลัมนะคะ
ส่วนผสม มะม่วงกวนและลูกพลัมกวน
• ลูกพลัม หรือมะม่วง
• เกลือ 1 ช้อนกาแฟ
• น้ำตาลทราย (ใส่ หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำมะม่วงกวนและลูกพลัมกวน
1. ขั้นตอนวิธีการทำเหมือนกันกับมะม่วงกวนค่ะ ณ ที่นี้ใช้ลูกพลัมในการถ่ายทำ ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย นำใส่เครื่องปั่น
2. ปิดฝา
3. ปั่นจนละเอียด
4. ปั่นลูกพลัมเสร็จแล้วก็นำมาเทใส่หม้อตั้งไฟ
6. กวนไปเรื่อย ๆ จนเดือดแล้วปิดเตา (หากใครชอบหวานสามารถเติมน้ำตาลทรายลงไปได้นะคะ แต่ข้าพเจ้าไม่ชอบน้ำตาล อยากได้รสธรรมชาติ)
7. เตรียมภาชนะที่จะบรรจุลูกพลัมกวนเพื่อตากแห้ง ใช้ถาดสีดำที่มากับเตาอบแล้วรองพื้นด้วยฟอยล์ อยู่ประเทศเมืองหนาวปราศจากแสงแดดอันอบอุ่น ไม่มีแดดให้ตากหรอกค่ะ
8. เทใส่ถาดแล้ววางทิ้งไว้ในครัวนี่แหละ ใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะแห้งโดยอัตโนมัติ
จริง ๆ ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากเลยสักนิด คนไทยไกลบ้านอย่างเราอยากกินอะไรก็ต้องทำเอง ไม่มีรูปภาพตอนที่เริ่มแห้งแล้วให้ดูหรอกนะคะ ไม่ได้ถ่ายไว้
7. เตรียมภาชนะที่จะบรรจุลูกพลัมกวนเพื่อตากแห้ง ใช้ถาดสีดำที่มากับเตาอบแล้วรองพื้นด้วยฟอยล์ อยู่ประเทศเมืองหนาวปราศจากแสงแดดอันอบอุ่น ไม่มีแดดให้ตากหรอกค่ะ
จริง ๆ ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากเลยสักนิด คนไทยไกลบ้านอย่างเราอยากกินอะไรก็ต้องทำเอง ไม่มีรูปภาพตอนที่เริ่มแห้งแล้วให้ดูหรอกนะคะ ไม่ได้ถ่ายไว้
ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามแหล่งที่มา https://cooking.kapook.com/view134654.html
แถมรูปปิดท้ายจริง ๆ ต้องกลับด้านแล้วตากเพื่อให้แห้งหมด 2 ด้าน แต่ว่าข้าพเจ้าไม่รอแล้วเห็นว่าด้านบนแห้งได้ที่ก็เอามาตัดใส่จาน ที่เห็นในรูปภาพหมดเกลี้ยงแล้ว
No comments:
Post a Comment